วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ใบงาน เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์



โครงงานคอมพิวเตอร์



โครงงาน หมายถึงอะไร?
    หมายถึง การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆสิ่งที่อยากรู้คำตอบให้ลึกซึ้ง หรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้มากขึ้น โดยใช้กระบวนการ วิธีการที่ศึกษาอย่างมีระบบ เป็นขั้นตอน มีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคำตอบในเรื่องนั้นๆ





โคงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึงอะไร?

    หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเีรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทำโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้







ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์มีกี่ปะเภท อะไรบ้าง?
 มี 5 ประเภท
1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
3.โครงงานประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment)
4.โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน(Application)
5.โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)



นักเรียนคิดว่า ทำไมจึงต้องทำโครงงาน?1. เพื่อให้ผู้เรียนได้ได้ทำการทดลองและพิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ
2. เพื่อรู้จักการวางแผนทำงานอย่างเป็นระบบ ขั้นตอน ทำให้รู้จักวิธีการแก้ปัญหาหลายวิธี
3. เพื่อฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ฝึกทักษะกระบวนการทำงานด้วยตนเอง หรือร่วมกัน
4. เพื่อฝึกวิเคราะห์ และประเมินตนเอง ได้รับประสบการณ์ตรง
5. เพื่อพัฒนาและได้แสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
6. เพื่อศึกษา ค้นคว้า และแก้ปัญหาจากการทำงาน มีบทบาทและส่วนร่วมในการเรียนรู้

ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์




วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ใบงาน เรื่อง พรบ. คอมพิวเตอร์



LIKE SHARE แบบไหนผิด?


  กดแชร์ กดไลท์ กับ พรบ.คอม ผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย

เริ่มต้นที่ความเห็นตำรวจ

จากเอกสารเผยแพร่ของกองบังคับการปราบปรามการกระทาความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

"คนกดแชร์ ย่อมเข้าองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (5)

คนกดไลค์ คือการร่วมลงชื่อรับรองข้อมูลอันเป็นความผิดดังกล่าว แม้มิได้มีเจตนาโดยตรง แต่ย่อมเล็งเห็นผลว่าการกดไลค์นั้นทาให้ข้อมูลได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ย่อมเข้าองค์ประกอบความผิดในฐานะตัวการร่วมตาม ป.อาญา มาตรา 83 ที่ระบุว่า ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทาของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทาความผิดด้วยกันนั้น เป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกาหนดไว้สาหรับความผิดนั้น"

ลองมาฟังความเห็นจากทนายดู

"ทนายวสันต์ ฝีมือช่าง รองประธานเผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความแห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการกดไลค์ กดแชร์ กดไลท์ ดังนี้ ตามลิงค์ http://www.thairath.co.th/content/550565

ผู้ที่ไม่รู้ว่าข้อความนั้นเป็นข้อความเท็จ หากกดส่งหรือแชร์ต่อ มีความผิดหรือไม่?

มีความผิด กฎหมายระบุไว้ว่า ผู้กระทำความผิดโดยประสงค์ต่อผลและย่อมเล็งเห็นผล แสดงว่าผู้นั้นรู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดตามกฎหมาย จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ การส่งต่อนั้นเป็นการกระทำแสดงถึงเจตนา เพื่อต้องการให้คนอื่นได้รู้ ฉะนั้นการใช้สื่อโซเชียลที่เป็นสื่อสาธารณะ จึงต้องคำนึงและพิจารณาก่อนกดส่งต่อเสมอ

ผู้ร่วมส่งหรือแชร์ข้อความเท็จ มีความผิดอย่างไร?

ผู้ร่วมกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (5) มีความผิดฐานเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรค 1,2,3,4

ไม่ได้กดแชร์ แต่กดไลค์ข้อความเท็จ ผิดหรือไม่?

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



ไม่ผิด การที่มีคนโพสต์หรือส่งต่อข้อความเท็จ ถือว่าการทำผิดนั้นสำเร็จแล้ว แต่การกดไลค์แค่แสดงถึงความชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น ไม่เข้าข่ายว่าเป็นการร่วมกระทำผิด การร่วมกระทำความผิดจะต้องทำก่อนจะเกิดและขณะทำ แต่การกดไลค์เกิดขึ้นหลังจากความผิดสำเร็จแล้ว

แม้ว่าปัจจุบันจะมีบุคคลนำกฎหมายไปตีความว่า การกดไลค์มีผลให้ข้อความนั้น ปรากฏขึ้นในหน้า News Feed ของเพื่อนได้ อย่างไรก็ตามก็ต้องนำไปพิจารณาอีกครั้งในชั้นศาล

การแสดงความคิดเห็น หรือคอมเมนต์ ผิดหรือไม่?

การแสดงความคิดเห็นจะไม่ผิด ต่อเมื่อข้อความที่เขียนออกไปไม่สร้างความเสียหายให้ผู้อื่น"

และนี่คือความเห็นจากทนายเบิ้ม

คำว่าแชร์ หรือ Share ถ้าใช้คำที่ดูนุ่มนวลสละสลวยก็อาจหมายถึงการแบ่งปัน แต่ถ้าภาษากฎหมาย ตาม พรบ.คอมมาตรา 14 (5) "เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)" นั่นคือข้อมูลปลอม/เท็จ,ข้อมูลเท็จเสียหายต่อความมมั่นคง,ข้อมูลความผิดต่อความมั่นคง/ก่อการร้าย/ข้อมูลลามกอนาจาร เคสนี้ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตรงนี้ น่าจะปฎิเสธไม่ได้นะว่าไม่ได้เผยแพร่ต่อ

สำหรับการไลค์ หรือ Like แปลแบบตรงตัวคือชอบ การที่จะชอบข้อความสัก 1 สเตตัส ถึงขนาดติดคุกติดตะราง เชียวหรือ ถามว่า คุณไม่ได้อ่าน ก่อนที่จะกดไลค์ อย่างน้อยต้องอ่านสักนิดสิ

จะผิดตรงเผยแพร่ต่อไหม บางครั้ง เราไม่เจตนา แต่ถ้าเราประมาท เพราะไม่รู้ ก็อาจผิดได้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 บัญญัติว่า "บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาทในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณี ที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา"

อย่าคิดว่าเรารอดตัวได้นะว่าเราไม่มีเจตนาสนับสนุนการทำความผิด โดยการเผยแพร่ต่อ เพราะคุณอาจผิดได้ ก็การกดไลค์(Like)นั้น สเตตัสที่คุณชอบก็จะเด้งไปหน้ารวมของเพื่อนคุณแต่ละคน ใช่หรือไม่ แบบนี้เรียกว่า เป็นการสนับสนุนหรือเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลอันเป็นความผิด โดยไม่รู้ตัว หรือเปล่า ยิ่งรู้ว่าเป็นข้อมูลปลอมหรือเท็จ ยังเต็มใจกดไลท์ ซึ่งเกิดจากความชอบเป็นการส่วนตัว นั่นอาจเป็นการกระทำโดยเจตนา เพราะประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผลก็ได้ ขอฝากเป็นข้อคิดนะครับ

อย่างไรก็ตาม บรรดาความเห็นของตำรวจผู้ทำหน้าที่ ทนายผู้เชี่ยวชาญ และของผม ทนายเบิ้ม ผู้ที่ตอบคำถามซ้ำๆแบบนี้ทาง InBox ทุกวัน เรื่องกดแชร์ ตามกฎหมาย คงต้องรับผิด เพราะตรงเป๊ะ ส่วนการกดไลท์นั้น ยังหาข้อยุติไม่ได้ เพราะยังไม่มีคำพิพากษาจากศาลเป็นบรรทัดฐาน



ต้องใช้สตินะครับ การกดแชร์หรือไลท์ แต่ละครั้ง ต้องผ่านการกลั่นกรองอย่างถี่ถ้วนเสียก่อนว่า ควรหรือไม่ควร พลาดพลั้งมา เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน และเสียความรู้สึก คุ้มกันที่ไหน ชั่งใจก่อนกด เผลอพลาดไปแล้ว จะมาเสียใจภายหลัง

สอบปลายภาค

สอบปลายภาค from Garn Cheansadethee